วันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

จาก ( nypa palm )



จาก ( nypa palm )








ชื่อภาษาอังกฤษ : Nypa, Atap palm, Nipa palm, Mangrove palm 
ชื่อวิทยาศาสตร์  : Nypa fruticans Wurmb. 
ชื่อวงศ์ : ปาล์ม  (Arecaceae หรือในชื่อเดิมคือ Palmae) เช่นเดียวกับตาล ตาว ลาน หวาย และ                           มะพร้าว และต้นจากมีชื่ออื่นอีก คือ อัตต๊ะ โดยมีถิ่นกำเนิดอยู่ในบริเวณชายฝั่งทะเลของ                           ประเทศไทย


ชื่อสามัญว่า : Nipa Palm 


วงศ์ย่อย : Nypoideae 


          ต้นจากซึ่งมีสกุลเดียว (Nypa) และเป็นปาล์มเพียงชนิดเดียวที่เป็นพืชในป่าชายเลน และมีลำต้นอยู่ใต้ดิน นับเป็นพืชเก่าแก่มากชนิดหนึ่ง ที่มีซากดึกดำบรรพ์อายุถึง 70 ล้านปี จากพบได้ทั่วไปในเอเชียใต้เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งในบริเวณน้ำจืด และน้ำกร่อย ที่มีน้ำเค็มขึ้นถึง มักจะขึ้นเป็นดงขนาดใหญ่ เรียกว่า ป่าจาก หรือดงจาก จากสามารถเติบโตได้ดีในดินโคลน ตามป่าชายเลน หรือบริเวณริมคลองที่มีไม้ให้ร่มเงาปะปนอยู่ด้วย มักอยู่ในช่วงที่มีน้ำจืดและน้ำกร่อยปนกัน แต่บนบกที่น้ำท่วมถึงและพบจากได้บ้างเช่นกัน หากดินไม่แห้งแล้งนานจนเกินไป





ที่มา:http://th.wikipedia.org/wiki/

ลักษณะทางพฤษศาสตร์ของต้นจาก



ลักษณะทางพฤษศาสตร์ของต้นจาก





  • ต้นจาก เป็นปาล์มแตกกอจากลำต้นใต้ดินหรือลำต้นที่เลื้อยไปบนดิน โดยโผล่ก้านใบและตัวใบขึ้นมาอยู่เหนือดิน ลำต้นจะแตกแขนงอยู่ใต้ดินทำให้ขึ้นเป็นก่อๆ และหลายทอด ต้นจากมีความสูงประมาณ 3 เมตร เจริญเติบโตได้ดีในดินเหนียว มีอินทรียวัตถุสูง และมีน้ำท่วมขัง ชอบแสงแดดจัด




  • ใบจาก ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก เรียงตรงข้ามกัน มีใบย่อยเป็นรูปขอบขนาน มีความกว้างประมาณ 5-6 เซนติเมตร และยาวประมาณ 90-120 เซนติเมตร แผ่นใบหนา ปลายใบลักษณะเรียวแหลม โคนใบเป็นรูปลิ่ม (ลักษณะคล้ายใบมะพร้าว) และเป็นรูปรางน้ำคว่ำ ที่ผิวใบด้านบนมีสีเขียวเข้มเป็นมัน ส่วนผิวใบด้านล่างมีสีนวล ส่วนกาบใบใหญ่ห่อโคนต้น ก้านใบที่แตกใหม่จะเป็นสีม่วงแดง[1],[2] ส่วนโคนใบจะมีกะเปาะอากาศ เป็นตัวช่วยพยุงให้ใบชูขึ้นเหมือนชูชีพ ส่วนกาบใบนี้บางครั้งจะเรียกว่า “พอนใบ” ส่วนช่อดอกที่แทงออกมาเรียกว่า “นกจาก



  • ดอกจาก ดอกมีสีเหลือง ออกดอกเป็นช่อแบบกระจุกแน่นระหว่างกาบใบ ดอกเป็นรูปกลม ดอกเป็นแบบแยกเพศอยู่ในต้นเดียวกัน ช่อดอกจะชูตั้งขึ้นและโค้งลง มีความยาวประมาณ 25-65 เซนติเมตร ออกดอกได้ตลอดทั้งปี




 จุกเรียกว่า “โหม่งจาก” ลักษณะของผลเป็นรูปทรงไข่กลับ (คล้ายกับผลระกำ แต่ไม่มีหนาม) แบนและนูนตรงกลาง ผลมีสีน้ำตาลเรียบเป็นมัน มีความกว้างประมาณ 3-10 เซนติเมตร และยาวประมาณ 6.5-7.5 เซนติเมตร ผลมีสันแหลมหรือมีร่องผลประมาณ 9-10 ร่อง ข้างในมีเนื้อเมล็ดสีขาว มีปริมาณของเนื้อไม่มากนัก และใช้รับประทานได้ มีรสชาติคล้ายกับลูกตาลสด ภายในผลมีเมล็ดเมล็ดมีลักษณะเป็นรูปไข่ มีสีขาว
*** ลูกจาก กับ ลูกชิด จะมีลักษณะคล้ายคลึงกัน โดยลูกจากจะมาจากต้นจาก ส่วนลูกชิดจะมาจากต้นตาว ซึ่งทั้งต้นจากและต้นตาวนั้นจัดอยู่ในวงศ์เดียวกัน เลยทำให้คิดไปว่าจากกับชิดคือพืชชนิดเดียวกัน หรือมักจะสับสนแล้วเรียกชื่อสลับกัน (กาพย์เห่เรือ ในรัชกาลที่ 2)



ที่มา:http://th.wikipedia.org/wiki/

ลูกจาก


ลูกจาก


ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
        โหม่งจากหรือทลายของผลจาก   จากเป็นพืชที่มีลำต้นอยู่ใต้ดิน ต้นตั้งตรง ใบแทงขึ้นจากกอ ช่อดอกแทงเป็นงวงออกมาจากกาบใย ส่วนที่เราเห็นของจาก คือส่วนใบและช่อดอกเท่านั้น ที่โคนใบมีกะเปาะอากาศ ช่วยพยุงให้ใบชูขึ้นเหมือนชูชีพ ส่วนกาบใบนี้บางครั้งเรียก "พอนใบ" ส่วนช่อดอกที่แทงออกมาเรียก "นกจาก" ใบที่โผล่ขึ้นมานั้น อาจชูขึ้นไปสูงได้ถึง 9 เมตร โดยไม่มีส่วนของลำต้นให้เห็นเลย ดอกของปาล์มเป็นลักษณะช่อ สีเหลืองแสด กลม ดอกตัวเมียที่ปลาย ดอกตัวผู้อยู่ตรงโคนช่อดอก ส่วนผลนั้นมีเปลือกแข็ง กระจุกเป็นทะลายหลายผล เปลือกสีน้ำตาล เรียกว่า "โหม่งจาก" ข้างในมีเนื้อเมล็ดสีขาว มีปริมาณเนื้อไม่มากนัก รับประทานได้ รสชาติคล้ายลูกตาลสด เมื่อสุกเต็มที่ผลจะแยกจากกลุ่ม ลอยน้ำ สามารถแพร่พันธุ์ไปได้ไกลๆ บางครั้งก็แตกหน่อขณะยังลอยน้ำ

ลูกจากลอยแก้ว
    






ส่วนผสม
๑.ลูกจาก
๒.น้ำตาลทรายขาวหรือน้ำตาลทรายไม่ขัดขาวก็ได้ตามชอบ
๓.น้ำสะอาด
 
วิธีทำ
๑. เทน้ำสะอาดใส่หมอตั้งไฟ รอให้เดือด
๒.ใส่น้ำตาล เคี่ยวจนน้ำตาลละลายและเหนียวได้ที่เป็นน้ำเชื่อม
๓. ใส่ลูกจากขณะที่น้ำเชื่อมกำลังเดือดจัดและรีบปิดไฟทันที
๔. เมื่อลูกจากในน้ำเชื่อมเย็นให้ตักใส่ตู้เย็น
๕.เวลารับประทานควรเติมน้ำแข็งเล็กน้อย
 




ที่มา:http://www.fisheries.go.th/


น้ำส้มจาก


น้ำส้มจาก




1.  เริ่มจากการน้าวหรือตีงวงตาล (ลูกตาลจาก) เพื่อกระตุ้นให้ต้นตาลผลิตน้ำหวานมาเก็บไว้ที่งวงตาล 


2.แล้วต่อมาตัดลูกตาลออกเหลือแต่งวง



3.นำกระบอกไม้ไผ่เกล็ดไม้เคี่ยม 2-3 เกล็ด เป็นสารกันบูด



4. นำไปแขวนรับน้ำตาลที่งวงตาลในเวลากลางคืน( เริ่มปาดตาลราว 4 -5 โมงเย็น พอค่ำก็เสร็จ) น้ำหวานที่รับได้งวงละ 1 กระบอกในตอนเช้า




5.เก็บกระบอกไม้ไผ่ที่รับน้ำตาลไว้เอามาเก็บรวมกัน

6..นำกระบอกไม้ไผ่ที่รับน้ำหวานจากงวงตาลมารวมกันเพื่อล้างกระบอก

7.เทลงในกระทะเดิมโดยมีกระชอนมารองรับเพื่อกรองไม้ที่ใส่ไว้กันบูด



8.ตักฟองของน้ำตาลในกระทะออก

9.ใส่ไม้ฟืนเพิ่มเพื่อเพิ่มความร้อน

 10.เคี่ยวน้ำผึ้งต่อไปอีกจนเหลือน้ำผึ้ง 1 ใน 3 ของน้ำหวานสด (ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง) น้ำผึ้งจะมีลักษณะข้นคล้ายยางมะตูมเรียกว่าน้ำตาลจาก ส่วนที่เป็นน้ำนั้นคือน้ำส้มจาก










ที่มา:http://www.oknation.net/blog/print.php?id=326193

ขนมจาก



ขนมจาก




           ขนมจากย่าง  ภาษาถิ่นเรียกว่า กวานอะบองฮะเตอ” เป็นอาหารพื้นบ้านที่มีการถ่ายทอดวิธีการทำสืบต่อกันมาและเป็นอาหารอีกชนิด หนึ่งที่ชุมชนสามารถหาวัตถุดิบในการทำอาหารได้จากแหล่งธรรมชาติในชุมชน เพราะชุมชนจะอยู่ใกล้กับป่าจากจึงมีต้นจากเป็นจำนวนมาก  คนในชุมชนจะนำลูกจากมารับประทานสดและนำมาทำขนมจากย่างโดยใช้ใบจากมาห่อขนม ได้ด้วย  และเมื่อเวลานำมาย่างใบจากจะมีความหอมเป็นเอกลักษณ์ คนในชุมชนจึงนิยมนำลูกจากมาทำขนมและใช้ใบจากห่อแล้วนำมาย่าง ซึ่งสามารถทำรับประทานได้เป็นประจำ


  • โอกาสในการบริโภค

รับประทานประจำและเทศกาลงานบุญต่าง ๆ


  • ลักษณะอาหาร



เป็นชิ้นยาว ออกสีเหลือง


  • รสชาติ

หวาน มัน หอมใบจาก



ส่วนผสมการทำขนมจาก



  1. แป้งข้าวเหนียวดำ กิโล
  2. แป้งข้าวเจ้า 1/2 กิโล
  3. กะทิ กิโล
  4. น้ำตาลปี๊บ 1/2 กิโล
  5. น้ำตาลทราย 1/2 กิโล
  6. มะพร้าวทึนทึกขูด ถ้วย
  7. มะพร้าวอ่อนขูด ถ้วย
  8. เกลือ ช้อนชา
  9. ใบจาก
  10. ไม้กลัด                            
  11. ขั้นแรกเราจะเอาแป้งข้าวเหนียวดำกับแป้งข้าวเจ้าผสมกัน แล้วนำแป้งมาร่อน

วิธีการทำขนมจาก




    ต่อไปเราก็เอามะพร้าวทึนทึกขูด และมะพร้าวอ่อนขูด มาผสมกัน
    • ตั้งกะทะให้ร้อนใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย ลงไปคนให้ละลายใส่มะพร้าวที่เราผสมกันแล้วลงไป พอน้ำตาลเหนียวได้ที่ก็ยกลง
    เอากะทิใส่หม้อ นำส่วนผสมน้ำตาลที่เราเตรียมใส่ลงไปคนให้เข้ากัน และเอาแป้งที่เราร่อนไว้ลงไปผสมใส่เกลือลงไปและคนให้เข้ากันอีกครั้ง
    • แล้วเราก็มาเตรียมใบจาก เช็ดให้สะอาดและตัดให้มีความยาวประมาณ 10-12 นิ้ว แล้วเราก็ตักขนมจากใส่ลงบนใบจากที่เตรียมไว้ (ใส่อันละประมาณ ช้อนโต๊ะ) แล้วกลัดหัว ท้าย นำขนมจากไปปิ้งไฟให้สุกก็เป็นอันเสร็จ




    ที่มา:http://www.dumenu.com/recipe/1284/

น้ำตาลจาก


น้ำตาลจาก



วิธีทำน้ำตาลจาก
             น้ำตาลจากคือผลผลิตที่ได้จากต้นจากโดยต้องผ่านกรรมวิธีตามขั้นตอนที่มาจากภูมิปัญญาชาว
บ้านที่ได้สืบสานกันมาตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันน้ำตาลจากมีลักษณะคล้ายน้ำตาลปี๊ป มีความหวานมากนิยมนำมาเป็นส่วนประกอบของการทำเหล้าและนำมาประกอบการทำอาหารได้อีกด้วย


กระบวนการผลิต

1.  เริ่มจากการน้าวหรือตีงวงตาล(ลูกตาลจาก) เพื่อกระตุ้นให้ต้นตาลผลิตน้ำหวานมาเก็บไว้ที่งวงตาล
2.แล้วต่อมาตัดลูกตาลออกเหลือแต่งวง    

3.นำกระบอกไม้ไผ่เกล็ดไม้เคี่ยม 2-3 เกล็ด เป็นสารกันบูด

4. นำไปแขวนรับน้ำตาลที่งวงตาลในเวลากลางคืน( เริ่มปาดตาลราว 4-5โมงเย็น พอค่ำก็เสร็จ) น้ำหวานที่รับได้งวงละ1 กระบอกในตอนเช้า

5. เก็บกระบอกไม้ไผ่ที่รับน้ำตาลไว้เอามาเก็บรวมกัน


6. นำกระบอกไม้ไผ่ที่รับน้ำหวานจากงวงตาลมารวมกันเพื่อล้างกระบอก


7.เทลงในกระทะเดิมโดยมีกระชอนมารองรับเพื่อกรองไม้ที่ใส่ไว้กันบูด



8.ตักฟองของน้ำตาลในกระทะออก


9.ใส่ไม้ฟืนเพิ่มเพื่อเพิ่มความร้อน




10.เคี่ยวน้ำผึ้งต่อไปอีกจนเหลือน้ำผึ้ง ใน ของน้ำหวานสด (ใช้เวลาประมาณ ชั่วโมง) น้ำผึ้งจะมีลักษณะข้นคล้ายยางมะตูม
                                                 
                  
                                                             
11. จึงยกลงจากเตา นำมาโซมด้วยไม้โซมจนข้นเหนียวคล้ายขนมกวน                                                 
                                                                                                                                                                12.บรรจุใส่ปี๊ป พร้อมจำหน่ายในราคาปี๊ปละ 1000 บาท







 ประโยชน์ของผลิตภัณฑ์

                เป็นส่วนประกอบของการทำอาหาร ล่วนผสมหลักของการทำขนมหวาน การทำเหล้าที่ชาวบ้านในแต่ละละแวกนิยมทานกัน สามารถนำมาจำหน่ายเป็นสินค้า OTOP ของหมู่บ้านนั้นๆได้เพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนที่อาศัยอยู่อีกด้วย


        
  ตลาดของการขายน้ำตาลจาก

          ตลาดของการขายน้ำตาลจากจะจำหน่ายโดยพ่้อค้าคนกลางเพื่อที่จะนำไปส่งต่อหรือแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิเช่น การทำเหล้า การทำขนมหรืออาหารโดยคิดเป็นราคา1000 ต่อปี๊ป





ที่มา:http://www.bloggang.com/viewdiary.